วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

vampire

>>แวมไพร์<<
(vampire)



เรื่องราวของแวมไพร์ หรือผีดูดเลือด เป็นเรื่องราวที่มีการบอกเล่าต่อกันมานานหลายร้อยปี และปรากฏอยู่ในตำนานของหลายประเทศทั่วโลก มีลักษณะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่เช่น แวมไพร์ตามตำนานเม็กซิโกจะมีกระโหลกมนุษย์วางอยู่บนศีรษะ แวมไพร์แถบเทือกเขาร็อกกี้จะดูดเลือดทางจมูก แวมไพร์ตามตำนานโรมาเนียจะมีร่างกายผอมซีดและไว้เล็บยาว เป็นต้น แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น แวมไพร์ทั่วโลกก็มีวิถีชีวิต รูปแบบการดูดเลือด และการสืบทายาทแวมไพร์ที่ไม่ต่างอะไรกันเลย ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
          1. แวมไพร์เป็นผีดิบในร่างของมนุษย์ มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดมนุษย์เป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงให้มีชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย
          2. แวมไพร์ถูกนำมาเปรียบเทียบเป็นมนุษย์ค้างคาวผีดิบ เนื่องจากแวมไพร์หากินกลางคืนต่างจากสัตว์ชนิดอื่น ดังนั้น เมื่อกล่าวถึงแวมไพร์ ก็มักจะนึกถึงผีดิบผิวซีดในชุดสีดำคล้ายค้างคาว
          3. ในตอนกลางวันแวมไพร์จะนอนนิ่งอยู่ในโลงศพ ในสภาพที่ตาข้างหนึ่งเปิดอยู่ มีเลือดติดอยู่ตามปากหรือจมูก
          4. ในตอนกลางคืนแวมไพร์จะออกหาเหยื่อ เพื่อดูดเลือดบริเวณคอของเหยื่อ โดยเหยื่อมักจะเป็นเพศตรงข้ามเสมอ
          5. แวมไพร์ ถ่ายทอดเชื้อสายด้วยการกัด แต่ผู้ที่ถูกกัดทุกคนอาจเสียชีวิตและไม่ได้ถูกปลุกขึ้นมาเป็นแวมไพร์ตัวใหม่ก็ได้
          6. ศพของแวมไพร์จะไม่เน่าเปื่อย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ใบหน้าจะยังดูมีเลือดไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา เพราะได้เลือดของเหยื่อหล่อเลี้ยงไว้
          7. แวมไพร์ สามารถสยบได้ด้วยกระเทียม ซึ่งเป็นพืชที่มีกลิ่นฉุนมาก หรือ
ไม้กางเขน และน้ำมนต์

ซึ่งเรื่องราวของแวมไพร์นั้น ความจริงแล้วสามารถอธิบายได้ในเชิงวิทยาศาสตร์หรือทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นศพไม่เน่า อาการกระหายเลือด      โดยปี ค.ศ.1982 ศาสตร์จารย์เดวิด ดอลฟิน ได้ชี้ว่าบุคคลเหล่านี้อาจป่วยเป็นโรคเลือดโดยกำเนิด คือความบกพร่องในเซลเม็ดเลือดและขาดธาตุเหล็ก      อาการเหล่านี้ขนานนามว่า "โรคแดร็กคิวล่า(Dracula syndrome หรือ Vampires syndrome)
" ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีร่างกายอ่อนแอ แพ้แสงแดดอย่างรุนแรงถึงขั้นปวดแสบปวดร้อนและมีการเปลี่ยนแปลงทางผิวหนัง  เพื่อเลี่ยงอาการเหล่านี้คนเหล่านั้นจึงมักปรากฏกายในยามค่ำคืน และนอกเหนือจากอาการป่วยทางผิวหนังแล้ว  โรคนี้ยังส่งผลให้เหงือกของผู้ป่วยหดรัดตัวเข้าไปและมีฟันยืนออกมา ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคนี้จึงมีรูปร่างลักษณะและอุปนิสัย
คล้ายผีดูดเลือด และความจริงที่น่าประหลาดใจอีกอย่างหนึ่งผู้ป่วยโรคนี้ไม่ถูกกระเทียมนัก !!   เพราะกระเทียมจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการทำลายเม็ดเลือด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในร่างกายผู้ป่วย



เอกสารอ้างอิง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น