[ผีญี่ปุ่น]
ในปี ค.ศ. 1780 นักปราชญ์และศิลปินนาม โทะริยะมะ เซคิเอ็น
ได้ทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับ ภูตผีปีศาจ ของญี่ปุ่น
ทั้งที่สิงสถิตอยู่ตามที่ต่างๆ ตลอดจนที่อยู่บนสวรรค์ และ ในนรก เขาพยายามแบ่งแยก
ผี ออกเป็นชนิดต่างๆ ตามลักษณะที่มันปรากฏร่างให้เห็น ซึ่งนับเป็นเรื่องยุ่งยากเอาการทีเดียว
เนื่องจากผี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โอะบะเกะ สามารถปรากฏให้เห็นได้สารพัดรูปแบบ
นอกจากโอะบะเกะแล้ว โทะริยะมะ ยังได้รวมเอาบรรดา ผี ปีศาจ ปอบ เปรต และ อสุรกาย
มาไว้เป็นพวกเดียวกัน เรียกว่า โยวไค นอกจากนั้นแล้วก็เป็นผีประเภท วิญญาณของคนตาย
ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ยูเร
ผีญี่ปุ่นแต่โบราณมานั้นมีอยู่ 3 ประเภท คือ
(1) โอบะเกะ Obage [ お化け]
ผีญี่ปุ่นแต่โบราณมานั้นมีอยู่ 3 ประเภท คือ
(1) โอบะเกะ Obage [ お化け]
โอบะเกะนั้นแปลตรงๆ
ตามความหมายของมันก็คือผี
ปกติจะอยู่ในรูปของกลุ่มไอหมอกประหลาดสีดำที่ล่องลองไปตามท้องถนนยามค่ำคืน
ซึ่งเมื่อโอบะเกะนั้นเข้าสิงสิ่งใดไม่ว่าคน สัตว์ สิ่งของ
สิ่งเหล่านั้นก็จะกลายร่างเป็นผีไปทันใด เช่น ถ้ามันเข้าสิงร่มเก่าๆ ที่มีอายุกว่า
100 ปีแล้ว
ร่มนั้นก็จะถูกกลุ่มไอปิศาจอาบมันจนกลายเป็นดวงตาใหญ่โตแสยะยิ้ม
หรือที่คนโบราณเรียกว่าผีร่ม ส่วนเวลาปรากฏตัวของโอบะเกะนั้นส่วนมากจะเป็นตอนกลางคืน
มันจะล่องลอยไปในท้องถนนยามค่ำคืนและพยายามหาร่างสิงสู่ของมัน
วันดีคืนดีชาวบ้านมักจะพบเกวียนเก่าที่ไม่มีคนขับวิ่งไปตามท้องถนนนั้นก็คือที่สิ่งสู่ของเหล่าวิญญาณต่างๆ
แต่สำหรับความเชื่ออีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับโอบะเกะคือ สิ่งของทุกอย่างเมื่อเราใช้มากและให้ความสำคัญกับมันมาก มันจะมีวิญญาณขึ้นมา ซึ่งเหมือนกับโอบะเกะที่เป็นร่มที่เราใช้และให้ความทะนุทะหนอมมันมันจึงมีจิตวิญาณขึ้นมา โดยส่วนมากแล้วโอบะเกะจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์เมื่อเห็นมนุษย์มันก็จะหนีไปหรือแปลงกายเป็นร่มเก่าๆจะได้ไม่มีใครให้ความสนใจ โอบะเกะไม่ใช่วิญญาณที่ร้ายกาจเพราะฉะนั้นคุณก็ไม่ต้องกล้วถ้าจะเจอมัน(จะเห็นหรือไม่เห็นเรื่องนั้นไม่นับ)
แต่สำหรับความเชื่ออีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับโอบะเกะคือ สิ่งของทุกอย่างเมื่อเราใช้มากและให้ความสำคัญกับมันมาก มันจะมีวิญญาณขึ้นมา ซึ่งเหมือนกับโอบะเกะที่เป็นร่มที่เราใช้และให้ความทะนุทะหนอมมันมันจึงมีจิตวิญาณขึ้นมา โดยส่วนมากแล้วโอบะเกะจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์เมื่อเห็นมนุษย์มันก็จะหนีไปหรือแปลงกายเป็นร่มเก่าๆจะได้ไม่มีใครให้ความสนใจ โอบะเกะไม่ใช่วิญญาณที่ร้ายกาจเพราะฉะนั้นคุณก็ไม่ต้องกล้วถ้าจะเจอมัน(จะเห็นหรือไม่เห็นเรื่องนั้นไม่นับ)
(2)
โยวไค youkai [ 妖怪 ]
หรือ จะเรียกว่า
ปีศาจที่มีร่างก็ว่าได้โยไคนี้เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกเหล่าบรรดาภูติ ผี ปิศาจ ปอบ
เปรต และอสุรกายที่มีมาแต่ช้านาน ซึ่งแหล่งที่อยู่เดิมของเหล่าผีพวกนี้คือนรก
พวกมันตะเกียกตะกายขึ้นมาจากขุมนรกที่แสนทรมานตัวแล้วตัวเล่า
เวลาปรากฏตัวของเหล่าโยไคนั้นจะเริ่มตั้งแต่ยามโพล้เพล้เป็นต้นไป(ช่วงที่ใกล้ค่ำแล้วท้องฟ้าจะเป็นสีแดง)
ชาวบ้านมักจะพูดเสมอว่าเวลานี้เป็นเวลาผีออกหากิน ซึ่งเหล่าโยไคนี้มีมากกว่า 1,000ชนิด มีบันทึกเรื่องราวพิศดารนี้อยู่ตามบันทึกญี่ปุ่น
เหล่าโยไคนั้นมีมากหลาย ยกตัวอย่างพวกผีที่ดังๆได้แก่ กัปปะ(พรายน้ำ)
โรคุโรคุบิ(ผีคอยาว) เท็งคุ(พรายภูเขา) ยูกิอนนะ(เจ้าหญิงหิมะ) คาไมทาจิ(3พรายแห่งลม) จิกินินกิ(เปรตกินศพ) คิสุเนะ(ปิศาจจิ้งจอก)
มุจินะ(ผีไร้หน้า) และอื่นอีกมากมาย...
(3)
ยูเร yurea [ 幽霊 ]
เป็นวิญญาณคนที่ตายไปโดยไม่ทันได้ดับจิต
หรือที่เรียกกันว่า ผีตายโหง ด้วยจิตคิดพยาบาทดั่งไฟสุมของดวงวิญญาณเหล่านี้
ทำให้ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้
มีตำนานวิญญาณของหญิงสาวที่โผล่ขึ้นมาจากบ่อน้ำเก่าเล่าขานมากมาย
สร้างความหวาดผวาไปทั่ว ยูเรนั้นมีอยู่ทั่วทุกแห่งไม่ว่าจะตามสนามรบเก่า
ซึ่งยูเราเหล่านั้นจะเป็นชายชาตินักรบที่ตายอย่างสมศักดิ์ศรี
วันดีคืนดีชาวบ้านที่เดินทางผ่านสนามรบเก่าก็จะพบเห็นเหล่ากองทัพผีซามูไรพุ่งรบกันอย่างไม่รู้แพ้รู้ชนะ
ตามท้องถนนทั่วไปจะเป็น ยูเร ที่ตายในอุบัติเหตุทำนองเดียวกับผีตายโหง
และเหล่าสัมภเวสีต่างที่ล่องลอยไปตามที่ต่างๆ รอวันผุดเกิด เวลาเหมาะสมที่ ยูเร
จะปรากฏตัวนั้นคือหลังเที่ยงคืนแต่ ยูเร
บางตนก็สามารถปรากฏตัวลางๆได้ในเวลากลางวัน และยูเรส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเพศหญิง
เพราะผู้หญิงนั้นมีความอาฆาตพยาบาท
เอกสารอ้างอิง
http://writer.dek-d.com/haru_tatsu/story/viewlongc.php?id=351820&chapter=149
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น